องคมนตรี ประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ เป็นวันที่สอง

 05 ต.ค. 2566 04:16   


วันที่ 5 ตุลาคม 2566 พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง ประชุมติดตามความก้าวหน้าและขับเคลื่อนการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ อ.แม่ระมาด จ.ตาก ร่วมกับส่วนราชการจังหวัดตาก ผู้แทนจากกระทรวง กรม และหน่วยงานส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง ณ อาคารศูนย์ประสานงานเศรษฐกิจพอเพียงบ้านเลอตอ เป็นวันที่สอง องคมนตรีได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานยึดแผนแม่บท พ.ศ. 2565-2570 เป็นแนวทางปฏิบัติงาน ประกอบด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญ คือ สร้างชุมชนปลอดฝิ่น พื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้น / รายได้เกษตรกรพ้นเส้นความยากจน / ยกระดับคุณภาพชีวิตถ้วนหน้า / พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน / พัฒนากลไกขับเคลื่อนตนเอง โดยการพัฒนายึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และความสมดุลด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เพื่อนำสู่ความสำเร็จของการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน เป็นไปตามพระราชประสงค์ และพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 

ด้วยภารกิจหลักของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวง คือ การพัฒนาและส่งเสริมอาชีพแก่เกษตรกร เป็นการเพาะปลูกพืชภายใต้มาตรฐานอาหารปลอดภัย พืชพันธุ์ส่งเสริม 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มพืชผัก อาทิ เบบี้ฮ่องเต้ กวางตุ้ง คะน้าฮ่องกง กลุ่มไม้ผล อาทิ สตรอว์เบอรี เสาวรสหวาน เคพกูสเบอร์รี กลุ่มพืชเครื่องดื่ม ได้แก่ กาแฟ และกลุ่มพืชไร่ ได้แก่ พืชตระกูลถั่ว และกัญชง มีการจัดทำแปลงวิจัยและทดสอบพันธุ์พืชก่อนนำไปส่งเสริมเกษตรกร รวมทั้งแปลงสาธิตการปลูกพืชผัก ไม้ผล กัญชง การปลูกกาแฟร่วมกับป่าไม้ และป่าชาวบ้าน ปัจจุบันมีเกษตรกรสมาชิก 500 ราย ในด้านการส่งเสริมอาชีพนอกภาคเกษตรได้จัดตั้งกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ โดยผลิตภัณฑ์จากเสาวรสเป็นผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ กัมมี่เยลลี่เสาวรส เมล็ดเสาวรสจี๊ดจ๊าด เปลือกเสาวรส 3 รส รวมทั้งยังพัฒนาผลิตภัณฑ์เยลลี่ชนิดใหม่ ได้แก่ เยลลี่เสาวรส เยลลี่เคพกูสเบอร์รี และเยลลี่สตรอว์เบอร์รี สำหรับงานหัตถกรรม ได้อบรมให้ความรู้การย้อมสีฝ้ายธรรมชาติจากพืชที่มีอยู่ในท้องถิ่นแก่กลุ่มสตรี เช่น การย้อมสีฝ้ายจากต้นตะเคียนหนู 2 เฉดสี ได้แก่ สีเหลืองและสีเขียว ในด้านการปลูกป่าทดแทนพื้นที่รกร้าง ได้ดำเนินการปลูกไม้ป่าแล้วรวมทั้งสิ้น 350 ไร่ โดยความร่วมมือของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และการปลูกกาแฟอราบิก้าภายใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ จำนวน 80 ไร่ โดยความร่วมมือของ กลุ่ม ปตท จำกัด (มหาชน) ยังคงค้างพื้นที่ปลูกป่าตามแผนอีก 60 ไร่ นอกจากนี้ยังมีการปลูกพืชคลุมดิน โดยความร่วมมือของ นปค.33 ในการปลูกไผ่โมโนและหญ้าเนเปีย และในพื้นที่หมู่บ้านแม่หละคี ซึ่งจัดทำเป็นแปลงรวมปลูกพืชในโรงเรือน รวม 20 โรงเรือน ซึ่งได้จัดสรรให้แก่เกษตรกร 5 ราย โดยจะเริ่มปลูกพืชในเดือนพฤศจิกายน 2566 คาดว่าจะเกิดรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 8 แสนบาท องคมนตรีได้เน้นย้ำแนวทางการแบ่งสรรพื้นที่อยู่อาศัย และพื้นที่ทำการเกษตรให้อยู่บนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และไม่ขัดต่อกฎหมาย พร้อมสร้างความเข้าใจแก่คนในชุมชน

องคมนตรีได้ประชุมหารือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สนับสนุนการพัฒนางานด้านสิ่งแวดล้อมกับโครงการหลวง โดยที่ผ่านมาได้สนับสนุนงบประมาณในช่วงระหว่าง ปี พ.ศ. 2565 – 2575 ในโครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม เพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ โดยในปีนี้โครงการหลวงจะเดินตรวจป่าที่ปลูกไปแล้วเพื่อจัดทำฐานข้อมูล และเตรียมขยายพื้นที่ดำเนินการ พร้อมต่อยอดสู่การพัฒนาแนวทางการศึกษาการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนี้ ในปี พ.ศ.2567 ยังมีแผนจัดทำโครงการชุมชนคนร้อยฝาย และการปรับเปลี่ยนระบบพลังงานไฟฟ้าเป็นโซล่าเซลล์ ในพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ เป็นโครงการเพื่อส่งเสริมพลังงานทางเลือก สอดรับกับเป้าหมาย BCG ของประเทศไทย และเป็นกิจกรรมสำคัญเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสทรงมีพระชนมพรรษา 72 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2567

ในช่วงบ่าย องคมนตรีได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมอ่างเก็บน้ำแม่หินหลวงน้อย บ้านห้วยโป่ง ที่สร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ทางการเกษตรและอุปโภคบริโภคแก่ชุมชนโดยรอบ ขณะนี้มีปริมาณน้ำในอ่าง 154,300 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 80 ของความจุอ่าง จากนั้นองคมนตรีได้แวะตรวจเยี่ยมอาคารผลิตผลศูนย์ฯ เลอตอที่บ้านจ่อคี โดยองคมนตรีได้เน้นย้ำให้มีการใช้ประโยชน์อาคารอย่างเต็มที่ และส่งเสริมคนในชุมชนให้เรียนรู้ เข้าใจ การใช้ภาษาไทย สามารถนำความรู้ที่ได้จากการถ่ายทอดของนักส่งเสริมเกษตรไปใช้ได้อย่างเต็มที่



 ข่าวสารและกิจกรรม อื่นๆ