องคมนตรี ประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาโครงหลวงเลอตอ วันที่สอง

 07 ธ.ค. 2566 23:32   


วันที่ 7 ธันวาคม 2566 พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง ประชุมติดตามความก้าวหน้าและขับเคลื่อนการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ อ.แม่ระมาด จ.ตาก ร่วมกับส่วนราชการจังหวัดตาก ผู้แทนจากกระทรวง กรม และหน่วยงานส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง ณ อาคารศูนย์ประสานงานเศรษฐกิจพอเพียงบ้านเลอตอ เป็นวันที่สอง

 

องคมนตรี ได้รับฟังความคืบหน้าการดำเนินงานของหน่วยงานสนับสนุนในด้านต่าง ๆ รวมทั้งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ ซึ่งการพัฒนาหมู่บ้านเลอตอในช่วงแรกนั้น นับเป็นเรื่องยากและต้องต่อสู้กับปัญหานานัปการอีกทั้งสภาพพื้นที่มีความลาดชันเป็นส่วนมาก ลักษณะดินเป็นดินเหนียวปนทราย มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ชาวบ้านเคยแต่ทำไร่หมุนเวียนและปลูกฝิ่น เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปแนะนำ และชวนชาวบ้านที่เคยปลูกฝิ่นให้หันมาปลูกพืชเมืองหนาว ซึ่งต้องใช้เวลาและความพยายามในการให้ความรู้การปลูกผักผลไม้แก่ชาวบ้าน จนกระทั่งเริ่มได้ผลผลิตและมีรายได้ โดยเฉพาะการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพแก่เกษตรกร ปัจจุบันได้ปลูกผักและไม้ผล เช่น กะหล่ำปลี ซุกินี หัวไชเท้า สตรอว์เบอร์รี เสาวรส แคฟกูสเบอร์รี อาโวคาโด เป็นต้น รวมทั้งจัดทำแปลงวิจัยและทดสอบพันธุ์พืชก่อนนำไปส่งเสริมให้แก่เกษตรกร ได้แก่ การปลูกทดสอบมะเขือเทศเชอรี่พันธุ์กลิตเตอร์ และเบบี้คอส โดยใช้ระบบน้ำหยด ผ่านการใช้พลังงงานแสงอาทิตย์ แปลงปลูกพริกแม็กซิกัน สตรอเบอร์รี พันธุ์ 80 พันธุ์ 88 พันธุ์ 90 เสาวรส 5 สายพันธุ์ ต้นฝรั่งพร้อมระบบน้ำ 5 สายพันธุ์ ได้แก่ หงเป่าสือ แตงโม เหมยกุยหง สุ่ยหมี่ จินชุ่ย และ มะละกอ 3 สามสายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์จินเชียง พันธุ์หงเชียง และพันธุ์เรดกอลิลล่า นอกจากนี้ยังมีแปลงสาธิตการปลูกกัญชง การปลูกกาแฟร่วมกับป่าไม้ และป่าชาวบ้าน ปัจจุบันมีเกษตรกรสมาชิก 520 ราย มีพื้นที่ส่งเสริมรวม 732 ไร่ สำหรับการส่งเสริมอาชีพนอกภาคการเกษตร ในด้านงานหัตถกรรม กลุ่มสตรีและเยาวชน ได้รวมกลุ่มทอผ้ากะเหรี่ยงย้อมสีธรรมชาติจากพืชที่มีอยู่ในท้องถิ่น ทำให้ได้สีสันที่หลากหลายโดยไม่เป็นอันตรายต่อคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม เกิดเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยและการเปลี่ยนแปลง อาทิ เครื่องนุ่งห่ม กระเป๋า ถุงย่าม ผ้าพันคอ ผ้าเอนกประสงค์ เป็นต้น ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นนอกจากการทำการเกษตรเพียงอย่างเดียว

ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน องคมนตรีได้เดินทางไปยังบ้านแม่หละคี อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เพื่อติดตามความก้าวหน้าในโครงการโรงเรือนแลกป่า ซึ่งดำเนินการร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ ด้วยการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการปลูกและบริหารจัดการป่าอย่างยั่งยืน ร่วมกับการปลูกพืชเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังสามารถต่อยอดสู่การพัฒนาแนวทางการศึกษาการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ในพื้นที่ป่าที่ดำเนินการ ขณะนี้ศูนย์ฯ เลอตอ มีโรงเรือนแลกป่า จำนวน 20 โรงเรือน สมาชิกเกษตรกรจำนวน 10 ราย ขณะนี้เริ่มปลูกต้นไม้ในพื้นที่ป่าแลกโรงเรือน จำนวน 100 ไร่ โดยนายติ๊วา พนาจิตรหาร เป็นหนึ่งในเกษตรกรและเป็นเจ้าของพื้นที่ที่เข้าร่วมในโครงการโรงเรือนแลกป่า ได้กล่าวว่า สมัยก่อนที่ยังไม่มีข้าวโพด ที่นี่เคยเป็นป่าที่อุดมสมบรูณ์ มีต้นไม้ขึ้นตลอดสองข้างทาง แต่พอมีการปลูกข้าวโพดก็มีการถางป่า ป่าหายไป ตอนนี้อยากให้ป่าที่หายไปกลับมาเหมือนเดิมได้เห็นพื้นที่เป็นสีเขียวอีกครั้ง


 ข่าวสารและกิจกรรม อื่นๆ