องคมนตรีร่วมประชุมคณะกรรมการกลั่นกรอง และขับเคลื่อนการปฏิบัติงานตามนโยบาย ครั้งที่ 5/2567

 21 ก.พ. 2567 19:26   


วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.00 น. นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี ประธานกรรมการมูลนิธิโครงการหลวง และ พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี เลขาธิการ และประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง เป็นประธานร่วมในการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรอง และขับเคลื่อนการปฏิบัติงานตามนโยบาย ครั้งที่ 5/2567 ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวงชนกาธิเบศรดำริ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวง โดยเฉพาะศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแห่งแรกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเริ่มเมื่อปีพุทธศักราช 2558 ขณะนี้การดำเนินการเข้าสู่ปีที่ 8 สนองในพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยสืบสาน รักษา และต่อยอดรูปแบบการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิ เบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในปีพุทธศักราช 2512 โดยสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เป็นโครงการหลวงแห่งแรก องค์ความรู้และประสบการณ์ได้สั่งสมจนกลายเป็นโครงการหลวงโมเดล นำสู่การแก้ปัญหาบนพื้นที่ฝิ่นผืนสุดท้ายของประเทศไทย

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ องค์นายกกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิโครงการหลวง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอดำเนินการจนเกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม 4 ประการ คือ ปริมาณฝิ่นที่เพิ่มสูงขึ้นในปี 2558 ได้หมดไปจากพื้นที่ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2562 มีโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีพและการประกอบอาชีพ เป็นตัวอย่างความสำเร็จจากการประสานความร่วมมือภายใต้เป้าหมายเดียวกันของหน่วยงานภาครัฐ และการสนับสนุนจากภาคเอกชน โดยโครงการหลวงเป็นศูนย์กลาง รวมทั้งการมีส่วนร่วมของชุมชน ขณะนี้ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอมุ่งเน้นการขยายอาชีพทางเลือกทั้งภาคเกษตร และนอกภาคเกษตร ซึ่งได้รับการยอมรับจากเกษตรกรในการปรับเปลี่ยนวิธีการปลูกพืชสู่ระบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการจัดทำแปลงทดสอบสาธิตและฝึกปฏิบัติเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกร และยังเป็นพื้นที่เพื่อการศึกษาเรียนรู้ ทั้งการปลูกทดสอบพืชในโรงเรือน การใช้ระบบน้ำหยดผ่านการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ภายนอกโรงเรือน พร้อมทั้งมีการบริหารจัดการด้านการตลาดและโลจิสติกส์ พืชผลเขตหนาวที่ส่งเสริม 20 ชนิด รวมทั้งพืชท้องถิ่น และผลิตภัณฑ์แปรรูป สร้างรายได้คืนแก่เกษตรกรชาวปกาเกอะญอ มากกว่า 15 ล้านบาท ในการส่งเสริมอาชีพนอกภาคเกษตรในงานหัตถกรรม ได้พัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่โครงการป่าให้สี เพื่อเพิ่มทางเลือกและความหลากหลายของสีย้อมฝ้ายจากธรรมชาติ พร้อมไปกับการเพิ่มพื้นที่ป่า ขณะนี้ผลิตภัณฑ์ผ้าย้อมสีจากธรรมชาติมีวางจำหน่ายที่จังหวัดตาก รวมทั้งจำหน่ายผ่านช่องทางของโครงการหลวง การพัฒนาได้ส่งผลให้ครัวเรือนมีรายได้สูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมด้านสาธารณสุข โดยภายในพื้นที่ตั้งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ มีอาคารสุขศาลา ซึ่งมีเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าเพื่อช่วยชีวิตในกรณีฉุกเฉิน


 ข่าวสารและกิจกรรม อื่นๆ