องคมนตรีตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่แพะ จ.เชียงใหม่
วันที่ 11 ตุลาคม 2567 พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมตรี เลขาธิการ และประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง เดินทางไปยังศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่แพะ พื้นที่ส่งเสริมพัฒนา 1 ใน 39 แห่ง ของมูลนิธิโครงการหลวง ตั้งอยู่ในหมู่บ้านแม่แพะ ต.สะเมิงเหนือ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ การพัฒนาในพื้นที่นี้ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2532 โดยที่โครงการหลวงมอบให้สถานีเกษตรหลวงปางดะ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอสะเมิง ขยายงานส่งเสริมอาชีพไปให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งมีความเดือดร้อนในเรื่องการจำหน่ายผลผลิตเกษตร โดยตั้งที่ทำการชั่วคราวในชื่อ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางดะ (แม่แพะ) นำพืชเขตหนาวที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศและสภาพพื้นที่ไปส่งเสริม พร้อมให้คำแนะนำในการเพาะปลูกถูกวิธีแก่เกษตรกร และช่วยดำเนินการด้านการตลาด โดยนำผลผลิตเข้าระบบการจัดการของโครงการหลวง ต่อมาในปี พ.ศ. 2539 จึงมีที่ทำการเป็นหลักแหล่ง และจัดตั้งเป็น ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่แพะ อย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2544
ปัจจุบัน ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่แพะ ดำเนินงานครอบคลุมพื้นที่ 11 กลุ่มบ้าน สมาชิกเกษตรกรภายใต้การส่งเสริมอาชีพของโครงการหลวง ประกอบด้วยชาวไทยภูเขาเผ่าปกาเกอะญอ ลีซู และคนพื้นเมือง รวม 591 ครัวเรือน ซึ่งทำกินในพื้นที่ที่โครงการหลวงได้รับอนุญาตให้ใข้ประโยชน์เพื่อการเกษตร จากกรมป่าไม้ ตามมาตรา 16 แห่ง พรบ. ป่าสงวนแห่งชาติ พศ. 2507 โดยพืชที่ส่งเสริม ได้แก่ พืชผัก ไม้ผล ผลผลิตหลัก ได้แก่ แตงกวาญี่ปุ่น ถั่วแขก ผักกาดขาวปลี อาโวคาโด ข้าวไร่ รวมทั้งยังมีชาอัสสัม ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และกาแฟ ซึ่งเป็นระบบปลูกภายใต้ร่มเงา รวมทั้งยังส่งเสริมอาชีพนอกภาคการเกษตร โดยฟื้นฟูและอนุรักษ์งานหัตถกรรมผ้าทอ การทำหมอนใบชา จักสานตะกร้าจากไม้ไผ่ และการทำไม้กวาด องคมนตรีได้เยี่ยมแปลงปลูกพริกหวาน และแตงกวาญี่ปุ่นของนายรชานนท์ ไชยบุตร ซึ่งเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ต่อยอดอาชีพเกษตรกรจากรุ่นพ่อ หลังจากที่เรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย โดยการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดินภายใต้โรงเรือน และใช้วิธีการหมุนเวียนชนิดพืช ปลูกและหมุนเวียนพื้นที่ เพื่อป้องกันการระบาดของศัตรูพืช เป็นการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต โดยประยุกต์ใช้องค์ความรู้ที่ได้จากโครงการหลวง จึงทำให้มีผลผลิตหมุนเวียนจำหน่ายสร้างรายได้ตลอดทั้งปี
