องคมนตรีได้กล่าวแก่ผู้ร่วมการสัมมนาว่า จากอดีตประเทศไทย ประสบปัญหาพื้นที่ป่าไม้ ต้นน้ำลำธาร เสื่อมโทรมจากการบุกรุก เผาทำลาย เกิดผลกระทบต่อของประเทศ ภูมิภาค และของโลก โครงการหลวงจึงเป็นองค์กรแรกที่เข้าไปพัฒนาพื้นที่สูงอย่างจริงจัง ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อช่วยเหลือชุมชนชาวไทยภูเขา ด้วยหลักการพระราชทานในการพัฒนาทางเลือกบนพื้นที่สูง ที่ดำเนินงานมาตลอดรัชสมัย จนเกิดผลสำเร็จเชิงประจักษ์ ได้รับการยอมรับทั้งจากในประเทศและนานาชาติ โดยเฉพาะองค์การสหประชาชาติได้ถวายรางวัลในปี 2544 เมื่อเข้าสู่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์ให้โครงการหลวงดำเนินการ สืบสาน รักษา ต่อยอด งานอย่างต่อเนื่อง พัฒนาให้ดีขึ้น เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนบนพื้นที่สูง ประชาชนชาวไทย และประเทศชาติโดยรวม ขณะนี้เป็นเวลา 55 ปี แล้วที่โครงการหลวงดำเนินงานมุ่งสู่เป้าหมายสำคัญ ตามพระบรมราโชบายขององค์นายกกิตติมศักดิ์ทั้ง 2 พระองค์ นำมาสู่ผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือ ประชาชนบนพื้นที่สูงมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถขจัดความยากจนและความหิวโหย เกิดความมั่นคงด้านอาหาร และการทำการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถขจัดการปลูกฝิ่นและพืชเสพติดในพื้นที่ 179 ตร.กม./200 ตัน ให้หมดไป โดย UNODC ได้ถอนชื่อประเทศไทยออกจากบัญชีประเทศผู้ผลิตฝิ่นในปี 2004 พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเพิ่มบทบาทของสตรี เด็ก และเยาวชนได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาได้มากขึ้น ชุมชนโครงการหลวงเป็นต้นแบบของชุมชนคาร์บอนต่ำ และการสร้างชุมชนเข้มแข็ง พื้นที่โครงการหลวงมีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นตามลำดับ และส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน รวมทั้ง ประชาชนบนพื้นที่สูงมีรายได้พ้นเส้นความยากจน โดยมีรายได้เฉลี่ย 188,339 บาท /ครัวเรือน /ปี และสามารถอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งการปฏิบัติตามรูปแบบการพัฒนาทางเลือกในการแก้ไขปัญหาบนพื้นที่สูง อย่างสันติและยั่งยืน ต่อยอดในพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแห่งแรกในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งหลายประเทศยังได้นำแนวทางไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่จริง ปัจจุบัน โครงการหลวงยังคงศึกษาวิจัยและพัฒนาการเกษตรที่เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศและภูมิสังคมอย่างต่อเนื่อง ภายใต้นโยบายเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การสร้างความมั่นคงด้านอาหาร เพื่อความยั่งยืนด้านการเกษตร รองรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของโลก รวมทั้งยังได้เผยแพร่องค์ความรู้ การพัฒนาทางเลือกบนพื้นที่สูงอย่างยั่งยืนแบบโครงการหลวง ให้เกิดประโยชน์แก่ปวงประชาชาวไทยและชาวโลกอย่างยั่งยืน ภายใต้การเป็นศูนย์การเรียนรู้ หลังจากการอภิปรายคณะผู้เข้าร่วมรับฟัง ยังได้ชมและชิมกาแฟและชา ตัวอย่างของผลผลิตส่งเสริมอาชีพแก่เกษตรกรที่มีระบบการปลูกภายใต้ระบบอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ผสมผสานกับพืชท้องถิ่นภายใต้ร่มเงาของไม้ยืนต้นธรรมชาติ
องคมนตรีเป็นประธานในพิธีทำบุญปีใหม่ไทยของมูลนิธิโครงการหลวง
29 เม.ย. 2567 08:49
องคมนตรีเยี่ยมชมฟาร์มเบอร์รีอินทรีย์ ณ เมืองลูสดอร์ฟ สาธารณรัฐออสเตรีย
20 มี.ค. 2567 01:39